วิ่งอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ งานอดิเรกเกี่ยวกับกีฬาที่ยิ่งรู้ยิ่งมีประโยชน์

ในช่วงนี้คนนิยมการออกกำลังกายโดยการวิ่งกันมากขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องลงทุนมาก เพียงมีพื้นที่ที่บ้านก็สามารถเริ่มวิ่งได้แล้ว หลายคนจึงเลือกการวิ่งเป็นงานอดิเรกที่ทำในทุกวันหรือทุก ๆ สัปดาห์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและเป็นการใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ แต่การวิ่งแบบไหนกันล่ะที่เรียกว่าวิ่งอย่างถูกวิธีและช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น วันนี้เรามีมาบอกกัน

เทคนิคการวิ่งให้ดีต่อสุขภาพ

  • วอร์มร่างกายก่อนเสมอ ก่อนเริ่มวิ่งควรวอร์มร่างกายก่อนเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น การวอร์มร่างกายจะช่วยให้ระบบการทำงานของเลือดทำงานได้ดีขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจทำงานดีขึ้น ช่วยให้กล้ามเนื้อตื่นตัว และช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ เป็นขั้นตอนที่ควรทำก่อนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบทั่วไปหรือการออกกำลังกายแบบ Crossfit ก็ตาม
  • เริ่มวิ่งจากช้า ๆ หรือเดินก่อน ไม่ควรเริ่มวิ่งโดยการวิ่งเร็ว ๆ ในทันที แต่ควรเริ่มจากการเดินหรือการวิ่งเหยาะ ๆ ก่อนเพื่อให้เลือดไหวเวียนได้ดี ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้ และช่วยลดความเสี่ยงในการทำให้หัวใจขาดเลือดได้ด้วย
  • วิ่งวันละ 30 นาทีขึ้นไป ควรวิ่งอย่างต่อเนื่องวันละ 30 นาทีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเริ่มเผาผลาญไขมัน โดยในการวิ่งนั้นก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วต่อเนื่องเสมอไป อาจวิ่งเร็วสลับกับการวิ่งเหยาะหรือเดินก็ได้
  • วิ่งให้ได้อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลดียิ่งขึ้นควรวิ่งให้ได้อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ วันละอย่างน้อย 30 – 45 นาที
  • ไม่หักโหมมากจนเกินไป การวิ่งแบบหักโหมเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น ทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ หัวใจทำงานหนักเกินไป และมีโอกาสสูงที่จะตกอยู่ในภาวะหัวใจขาดเลือดในขณะที่วิ่งและอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการวิ่งที่บ้านหรือวิ่งในฟิตเนสควรวิ่งอย่างพอดีและไม่หักโหมมากเกินไป
  • คูลดาวน์หลังการวิ่งเสมอ หลังวิ่งแล้วควรทำให้ร่างกายเย็นลงด้วยการคูลดาวน์เพื่อช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ เช่น การเดินช้า ๆ การเดินแล้วยกแขนขึ้น – ลง การยืดกล้ามเนื้อแขน ขา คอ หลัง สะโพก และส่วนอื่น ๆ

การเลือกเสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่ง

  • เลือกเสื้อผ้าออกกำลังกายที่มีความยืดหยุ่น ควรเลือกเสื้อผ้าออกกำลังกายที่มีความยืดหยุ่นเพื่อความคล่องตัวในการวิ่ง
  • เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ควรเลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ เพราะจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายและรู้สึกสบายตัวแม้เหงื่อออกมาก
  • เลือกรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่งในแต่ละประเภท รองเท้าวิ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ รองเท้าสำหรับวิ่งในร่มหรือพื้นเรียบ พื้นยาง รองเท้าสำหรับวิ่งบนพื้น­ขรุขระ และรองเท้าที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งการวิ่งบนพื้นเรียบและพื้นขรุขระ

สำหรับใครที่เลือกการวิ่งเป็นงานอดิเรกก็สามารถนำวิธีการวิ่งดี ๆ เหล่านี้ไปปรับใช้กันได้ เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การวิ่งของคุณได้ผลดีมากขึ้นทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งยังช่วยลดการบาดเจ็บในการวิ่งได้ด้วย

Credit : https://pixabay.com/photos/running-runner-long-distance-573762/